Winter Wonderland …คุณคงกำลังคิดถึงยุโรป จะมีใครบ้างที่นึกถึงทวีปของเรา มาดูกันดีกว่าว่า 9 เมืองในฝันวันหิมะตกของเอเชียจะมีที่ไหนที่ทำให้คุณอยากไปบ้าง เรามั่นใจว่าบรรยากาศบ้านเมืองแบบเอเชียเวลาที่ตัดกับหิมะขาวๆ นี่แหละ มีเสน่ห์สุดๆ บางที่อาจคุ้นตาหรือเคยเที่ยวในฤดูอื่นกันมาแล้ว ถึงเวลาสำรวจความมหัศจรรย์ของมันในวันหิมะตกแล้วล่ะ
- Moscow, Russia
- Xuexiang Snow Village, China
- Tbilisi, Georgia
- Zanskar, India
- Mohe Santa Village, China
- Lori, Armenia
- Deogyusan, South Korea
- Cappadocia, Turkey *
- Shirakawago, Japan *
* กาดาวให้พิเศษสำหรับเมืองที่เราไปแล้วได้เจอกับที่พักดีๆ จนอยากเอามาแบ่งปัน นอกจากสะอาดสบายทำเลดีแล้ว สตาฟยังน่ารักมากก เดี๋ยวจะลงลิ้งราคาดีจาก Traveloka ไว้ให้ด้วย ส่วนเมืองไหนที่เราไปพักแล้วมันเฉยๆ ก็จะขอข้ามไปก่อนนะ
1. Moscow, Russia

Mikhail Starodubov / Shutterstock.com
Moscow ที่คนไทยเราเรียกมอสโก หรือที่คนรัสเซียเรียกเมืองหลวงของพวกเค้าว่ามัสกวา มันเป็นเมืองหลวงมายาวนานตั้งแต่สมัยรัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต USSR อยู่เลย

Pavel L Photo and Video / Shutterstock.com
เสน่ห์ของกรุงมอสโกคือสถาปัตยกรรมสวยๆแปลกๆที่หน้าตาไม่เหมือนที่ไหน วิหารหัวหอมเซนต์เบซิล พระราชวังเครมลิน จัตุรัสแดง ทั้งหลายเหล่านี้มันดูมีความเป็นเอเชีย ยุโรป อาหรับ ผสมกันยังไงก็ไม่รู้ แต่ถ้าพูดถึงสภาพบ้านเมืองโดยทั่วไปเราว่ามีความเอเชียสูงมาก จะไม่ได้สะอาดเนี๊ยบยุโรปจ๋าแบบทางฝั่ง Saint Petersburg

andreevarf / shutterstock.com
ไม่ต้องสงสัยถึงความเย็นยะเยือกของมอสโกในฤดูหนาวเลย ขนาดนโปเลียนที่เคยยกทัพมาล้อมมอสโกยังต้องถอยทัพยอมแพ้ให้กับความหนาวนี้มาแล้ว!

mzabarovsky / shutterstock.com
ในช่วงคริสมาส ที่นี่จะมีการประดับประดาไฟ สายรุ้ง และห้อยลูกบอลสีต่างๆตามท้องถนนสำหรับถนนสายสำคัญทุกสายที่มุ่งเข้าสู่จัตุรัสแดง นอกจากนี้ยังมีตลาดคริสต์มาส ลานสเก็ตน้ำแข็ง และเครื่องเล่นในนิทานอย่างพวกม้าหมุน ถ้วยหมุน ชามหมุน และบอลลูนหมุน
2. Xuexiang Snow Village, Heilongjiang, China

HelloRF Zcool / Shutterstock.com
Xuexiang มีความหมายตรงตัวตามภาษาจีนเลยว่า หมู่บ้านหิมะ เพราะมีหิมะปกคลุมถึงปีละ 7-8 เดือน ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ใบไม้เพิ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีในเดือนตุลาคม แต่นี่ที่นี่หิมะเริ่มตกกันแล้ว ตกไปเรื่อยๆถึงเมษาจนบ้านแต่ละหลังมีหลังคาพองๆฟูหมือนเห็ดอ้วนแบบนี้ ความน่ารักของที่นี่ไม่ใช่แค่หิมะหนาเวอร์แต่ยังมีโคมจีนสีแดงๆแขวนอยู่ทุกบ้านด้วย หมู่บ้านหิมะแห่งนี้ไม่ให้รถยนต์จากภายนอกเข้า รัฐบาลเลยจัดรถบัสท่องเที่ยวให้ถึง 23 คัน พร้อมกับกวางเรนเดียร์ 6 ตัวและลา 5 ตัว ไว้ขนส่งสินค้า

Lu Yang / Shutterstock.com
หมู่บ้านหิมะแห่งนี้ตั้งอยู่ในมณฑล heilongjiang เฮ(ดำ) หลง(มังกร) เจียง(แม่น้ำ) ทางตอนเหนือสุดของประเทศจีน เป็นมณฑลที่มีป่าไม้อยู่กว่า 40% ของพื้นที่ เลยเป็นเขตอุตสาหกรรมป่าไม้ที่สำคัญของจีน (เมืองหลวงของเค้าทุกคนน่าจะคุ้นหูกันดีคือ harbin ฮาร์บิน ที่มีการจัดเทศกาลประกวดรูปสลักหิมะและน้ำแข็งขนาดยักษ์อย่างยิ่งใหญ่ทุกปี) อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในหน้าหนาวของมณฑลแม่น้ำมังกรดำนี้จะอยู่ที่ -30c

Lu yang / Shutterstock.com
3. Tbilisi, Georgia

Yulia Grigoryeva / Shutterstock.com
Tbilisi ทิบีลิซี่ เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่สุดของประเทศจอร์เจีย เป็นอีกเมืองที่หน้าตาน่าสนใจมากเพราะตำแหน่งที่ตั้งอยู่กลางๆระหว่างยุโรปและเอเชีย (คือเป็นเอเชียตะวันตกนั่นแหละ) เมื่อทั้ง 2 ฝั่งทวีปมีการติดต่อค้าขายกันมาหลายร้อยปี ทิบีลิซี่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเลยได้รับอิทธิพลจากทั้ง 2 ฝั่งไปเต็มๆ

Yulia Grigoryeva / Shutterstock.com
จอร์เจียเป็นประเทศที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแนวของเทือกเขาคอเคซัสทั้งเหนือและใต้ ทิบีลิซี่เลยเป็นเมืองที่ตั้งไล่ระดับไปตามความลาดของภูเขา ถ่ายรูปมาเลยเห็นอาคารสีสันสวยงามได้หมดทุกชั้น จะเดินทางขึ้นด้านบนของเมืองก็ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ดูในรูปล่างนี้ดีๆก็จะเห็นกระเช้าด้วย

Yulia Grigoryeva / Shutterstock.com
จอร์เจียออกมาจากโซเวียตได้เพราะการประท้วงของชาวจอร์เจีย ไม่มีการนองเลือดใดๆแถมยังได้ชื่อสุดหวานว่า rose revolution การปฏิวัติดอกกุหลาบเพราะประชาชนถือดอกกุหลาบมาประท้วงด้วย ประเทศนี้ถือว่าหนาวแบบอบอุ่น ไม่หนาวจัด เพราะมีภูเขาคอเคซัสตั้งคอยกันลมหนาวที่พัดลงมาจากรัสเซีย แถมด้านข้างขวาซ้ายยังมีทะเลแคสเปียนและทะเลดำอีก อากาศเลยออกแนวชื้นๆ ปีนึงมีหิมะตกอยู่ราวๆ 15-25 วัน แต่ถึงอย่างนั้น ประเทศนี้ก็มีสกีรีสอร์ทนะ
4. Zanskar, India

Yongyut Kumsri / Shutterstock.com
Zanskar เป็นทั้งเมือง หุบเขา ภูเขา และแม่น้ำ ในเขตแดนของ Ladakh แห่งแคว้น Jammu & Kashmir จัมมูและแคชเมียร์ แต่ในที่นี้เราจะขอพูดถึงซันสการ์ในฐานะแม่น้ำที่เชื่อมระหว่างเมืองซันสการ์ในหุบเขากับโลกภายนอกอย่างลาดักห์ ในฤดูหนาวแม่น้ำสายนี้จะกลายเป็นน้ำแข็ง จาก Zanskar river จะกลายเป็น Chadar trek ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้เข้ามาเทรคยาวๆ 6-7 วัน เดิน กิน นอน ตั้งแคมป์กับเส้นทาง 105 กิโล นี่แค่ขาไปขาเดียวนะ ยังไม่ร่วมเดินกลับเลย วันนึงนักท่องเที่ยวจะเดินได้ประมาณ 16 กิโลโดยเฉลี่ย แม่น้ำน้ำแข็งสายนี้ถูกขนาบข้างด้วยหน้าผาสูงกว่า 600 เมตร ระหว่างทางจะได้เห็นน้ำตกแข็งเป็นเส้นแหลมๆ ทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาด้วย มีความ frozen, let it go

Baciu / Shutterstock.com
สำหรับนักท่องเที่ยว Chadar trek กับการเดินบนแม่น้ำที่เป็นน้ำแข็งคงเป็นเรื่องสนุกท้าทาย น่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวเมือง Zanskar นี่ไม่ใช่เทรลสนุกๆ มันคือถนนเส้นเดียวที่พวกเค้ามีใช้ในฤดูหนาว ถนนที่ต้องเดินเท้าเป็นร้อยโลเพื่อติดต่อกับโลกภายนอกเพราะหิมะที่หนาเป็นเมตรได้กลบฝังเส้นทางภูเขาที่ใช้ประจำในฤดูร้อนไปเกลี้ยง สิ่งที่ชาวเมือง Zanskar เรียกร้องมาตลอดจึงเป็นถนนซักเส้นที่ช่วยให้ความเจริญเล็กๆน้อยๆมาถึงพวกเค้าบ้าง ทั้งยาและการรักษา การขนส่งไม้และฟืน รวมถึงเด็กๆที่เดินทางไปเรียน ตอนนี้ถนนเลียบแม่น้ำได้เริ่มสร้างแล้ว เสือดาวหิมะที่เคยครอบครองแถบนี้ยังต้องหนีขึ้นไปอยู่บนเขา นี่อาจเป็นสิ่งที่คนนอกบางคนกลัว ความเจริญจะเข้าไปทำลายเสน่ห์ของซันสการ์ในซักวัน แต่เราว่าวิถีชีวิตของผู้คนคงไม่เปลี่ยนได้ง่ายๆ มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและกำลังทำลายซันสการ์เร็วกว่านั้นอีก นั่นคือ climate change

Baciu / Shutterstock.com
อย่างที่เรารู้กันดีว่าเดี๋ยวนี้สภาพอากาศบนโลกเปลี่ยนไปมาก ไม่สม่ำเสมอและคาดเดาได้เหมือนก่อน ที่ซันสการ์เองเมื่อก่อนแม่น้ำจะกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งหนาหนาๆอยู่เกือบครึ่งปี แต่ในปัจจุบันเพียงแค่แผ่นน้ำแข็งที่บางลง เทรคได้แค่ช่วง มกรา-มีนา คนที่ไม่ชำนาญเส้นทางอาจก้าวพลาดแล้วตกทะลุน้ำแข็งลงแม่น้ำไปเลยก็ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีชาวเมืองที่เสียชีวิตเพราะเหตุนี้ เพราะพอตกลงไปก็จะไหลไปตามน้ำเรื่อยๆ ไม่สามารถทะลุแผ่นน้ำแข็งกลับขึ้นมาได้อีก น่ากลัวนะ
5. Mohe Santa Village, Heilongjiang, China

SnvvSnvvSnvv / Shutterstock.com
ยังอยู่ในมณฑลเฮหลงเจียงทางตอนเหนือเช่นเดียวกับหมู่บ้านหิมะ Xuexiang ที่แนะนำกันไปในข้อ 2 แต่ Mohe เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของมณฑล เรียกว่าเหนือสุดของประเทศจีนเลย แค่ข้ามแม่น้ำไปสายเดียวก็เข้าประเทศรัซเซียแล้ว ด้วยภูมิอากาศแบบ sub-arctic หนาวโหดร้ายรุนแรง ใครมาเที่ยวในเดือนมกราอาจได้มาตัวสั่นกันที่ -52c อ่านไม่ผิดแน่นอนค่ะ หนาวกว่าแถบอลาสก้าอีกนะ

Jordan Adkins / Shutterstock.com
ในขณะที่ฝั่งยุโรปมีหมู่บ้านซานตาคลอสอยู่ที่ฟินแลนด์ ฝั่งเอเชียเราก็มี mohe โม่เหอนี่แหละที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านซานต้า มันเริ่มจากที่การท่องเที่ยวของเมืองนี้ที่จะบูมแค่ฤดูร้อน ทุกโรงแรมถูกของเต็มหมดเพราะนักท่องเที่ยวแห่กันมันดูแสงเหนือในฤดูร้อนของที่นี่ ส่วนในหน้าหนาวที่หนาวจัดกลับว่างโล่งทั้งเมือง mohe เลยอยากสร้างความพิเศษให้ฤดูหนาวเพิ่ม แล้วหวยก็มาตกที่การสร้างหมู่บ้านให้ซานต้า โดยจะมีซานต้าคลอสเดินทางมาจากฟินแลนด์เพื่อพักที่หมู่บ้านนี้ในช่วงคริสมาสจนถึงกลางกุมภาเลย จริงจังขนาดมีทูตฟินแลนด์มาร่วมงานเปิดหมู่บ้านด้วยนะ อีกหน่อยเห็นว่าจะมีสกีรีสอร์ทด้วย
6. Lori, Armenia

Karen Faljyan / Shutterstock.com
โลรี เป็นแคว้นทางตอนเหนือของประเทศอาร์เมเนีย อยู่ติดกับชายแดนประเทศจอร์เจียเลย โดยอยู่ห่างจากเมืองหลวงของอาร์เมเนียอย่าง Yerevan ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
แล้วโลรีน่าสนใจตรงไหน โลรีเป็นแคว้นในภูเขา ใครชอบภูมิประเทศภูเขาแม่น้ำสูงๆต่ำๆน่าจะชอบแคว้นนี้ แถมโลรียังมีอารามจากยุคกลางถึง 2 แห่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก คือ Haghpat และ Sanahin Monastery ทั้ง 2 เป็นอารามที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง เนื่องจากเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่มรวยสูงสุดของสถาปัตยกรรมทางศาสนาแบบอาร์เมเนีย มีความพิเศษเฉพาะตัวจากการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบบีเซินทีน Byzentine พวกลักษณะการสร้างโดม ให้เข้ากับสถาปัตยกรรมท้องถิ่น

Karen Faljyan / Shutterstock.com
Haghpat monastery (Հաղպատավանք ชื่ออารามในภาษาอาร์เมเนีย ตัวอักษรน่ารักดีมั้ย) อารามฮักพัทเป็นอารามบนเนินเขาที่สร้างขึ้นกลางหมู่บ้านชื่อเดียวกัน ส่วน Sanahin Monastery ก็ไม่เบา เพราะความหมายของชื่อซานาฮินคือ “เก่าแก่กว่าอีกอัน” เป็นการเคลมกลายๆว่าจริงๆแล้วอารามซานาฮินแห่งนี้เก่าแก่กว่าอารามฮักพัทในหมู่บ้านข้างๆนะ เผื่อใครไม่รู้ 555 ทั้งอารามฮักพัทในหมู่บ้านฮักพัทและอารามซานาฮินในหมู่บ้านซานาฮินนี่คล้ายกันมาก คือตั้งอยู่บนที่ราบสูงทั้งคู่ สร้างขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และยังตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน
7. Deogyusan, North Jeolla, South Korea

Guitar photographer / Shutterstock.com
Deogyusan อุทยานด๊อกยูซานตั้งอยู่บนเทือกเขา Baekdudaegan ซึ่งเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของประเทศเกาหลีเพราะแบ๊กดูแดกันทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ในขณะที่ด้านล่างเป็นสกีรีสอร์ท แต่ด้านบนที่สูงถึง 1,614 m above sea level ทำให้มีหิมะตกค่อนหนา เส้นทางเทรคกิ้งขาวโพลนไปหมดทั้งก้านไม้และซุ้มศาลา ช่วงที่เมฆลอยผ่านมันเป็น winter wonderland กลิ่นอาจเอเชียที่สวยมากเลย

Teerachat paibung / Shutterstock.com
ต้องบอกก่อนว่ามันน่าสนใจเพราะปกติภูเขาที่ยอดสูงมากๆ มักจะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเทรคในฤดูหนาว แต่ที่นี่ไม่ได้สูงเกินไปจึงเปิดให้เทรคได้ตลอดปี ถ้าไปถึงเช้าๆหน่อยตอนที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ คุณอาจโชคดีได้เจอ Elk กวางเอลค์ ด้วยนะ

Teerachat paibung / Shutterstock.com
ด๊อกยูซานถูกเรียกว่าเป็น heaven of wild flowers หมายความว่าถ้ามาในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ก็จะมีดอกไม้ป่าหลายหลายสายพันธุ์ให้เห็น ดอกไม้เรียกแขกประจำฤดูใบไม้ผลิคือ ดอกอาซาเลียสีชมพู (Azalea) ในขณะที่ในฤดูร้อนจะเป็นดอกเดย์ลิลลี่ Day Liliy
- อยากเห็นรูปดอก azalea สีชมพูบานทั้งภูเขา ไปดูจากในนี้ก่อนได้ เป็นอุทยานบ้านใกล้เรือนเคียงในเกาหลี มีชื่อเรื่องดอกอาซาเลีย : KOREA : 5 สถานที่ธรรมชาติสวยๆในเกาหลี
8. Cappadocia, Turkey
การขึ้นบอลลูนที่ Cappadocia คงเป็นกิจกรรมในฝันของใครหลายๆคน ขึ้นได้ตลอดทั้งปีถ้าอากาศดีๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเลยจะหลีกเลี่ยงหน้าหนาวกันเพราะมีโอกาศที่ทริปบอลลูนจะล่มมากกว่าฤดูอื่น แต่ถ้าคุณมีเวลา ก็ลองไปหน้าหนาวเถอะ ถ้าวันนี้ล่ม พรุ่งนี้ก็รอวันฟ้าใสใหม่
ขนาดกัปตันที่เป็นคนขับบอลลูนยังบอกกับเราเลยว่าเค้าชอบล่องไปเหนือความกว้างใหญ่ของคัปปาโดเกียในฤดูหนาวที่สุด
ภูมิประเทศหน้าตาแปลกๆที่อยู่ใต้หิมะและผลึกน้ำแข็ง เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ลาวาและเถ้าถ่านที่พ่นออกมาทับถมกันผ่านการกัดเซาะมายาวนานเป็นล้านปี มองไปทางไหนก็ขาว ใครรักบอลลูนเป็นทุนเดิม เจอหน้าหนาวเข้าไปนี่ตาย ยอมแพ้ให้ความสวยนี้ได้เลย ลาวา ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา
- เพ่งดูดีเทลของภูมิประเทศเค้าให้ดีๆ นี่มันเมืองอายุล้านปีทั้งเมืองเลย
อ่านเพิ่มเติมเรื่องตุรกีหน้าหนาวได้ที่ : Treasures of Turkey
แนะนำที่พักหน่อย :
- Heybe Hotel คัปปาโดเกียมีโรงแรมสไตล์ถ้ำๆหินๆเยอะมาก แต่เราเลือกที่นี่เพราะดูสะอาดสะอ้านดี แถมประทับใจการบริการเค้ามากเลย นอกจากให้โทรศัพท์มือถือติดตัวไว้เครื่องนึงระหว่างเที่ยวในเมือง มีปัญหาอะไรก็โทรติดต่อเค้าได้ หรือจะโทรเรียกให้เค้าช่วยรับส่งระหว่างที่เที่ยวก็ยังได้ พอถามถึงถ้วยชามสวยๆ สตาฟที่ชื่อ เสม็ด ยังอาสาพาขับรถไปถึงถิ่นตั้งไกล ถ้าอยากนั่งบอลลูน โรงแรมก็จัดการติดต่อให้ด้วย รูปนี้ถ่ายจากระเบียงห้องอาหารในหน้าร้อน มองเห็นมรดกโลกอย่าง Fairy Chimneys หรือปล่องนางฟ้าด้วย จะเดินไปเที่ยวเล่น Goreme Open Air Museum ก็ไม่ไกล
- ลองเข้า Traveloka ไปดูส่วนลดแล้วจองโรงแรมเฮบี Heybe Hotel กัน : คลิกที่นี่
9. Shirakawago, Gifu, Japan

Pigprox / Shuttetstock.com
อย่าเพิ่งเบื่อที่นี่กัน ยอมรับว่าฮิตรองจากภูเขาไฟฟูจิก็คงไม่พ้นหมู่บ้านในฝันอย่าง Shirakawago ถึงทุกคนจะรู้จักมันดีแค่ไหน แต่เราก็คงปล่อยหมู่บ้านชิราคาวะให้ตกสำรวจไปจาก 9 Winter Wonderlands in Asia ไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นคำตอบที่ใช่ที่สุด

Puripat Lertpunyaroj / Shuttetstock.com
บ้านหลังเล็กๆกับหลังคาทรงแปลกๆที่หนาฟูไปด้วยหิมะ จะพีคสุดๆตอนที่เค้าจัดงานเปิดไฟ Shirakawa light up มองจากบนเขาเราอาจคิดว่าเป็นเพียงไฟดวงเล็กๆที่เปิดตามบ้านเรือน จริงๆมันเป็นสปอตไลท์ดวงใหญ่ที่เค้าตั้งใจยิงขึ้นหลังคาหิมะเลยแหละ เราเคยไปมาทีนึง ตอนนั้นไม่แนะนำให้ใครไปอีกเลย เจอฝูงคนแล้วความสวยหายเกลี้ยง หมู่บ้านช้ำมากเวลาทุกคนแย่งกันย่ำไปดูไฟข้างบน วิวก็มองไม่ค่อยเห็นต้องยื่นมือสูงๆแล้วกดถ่ายอย่างเดียว

freedom100m / Shutterstock.com
แต่เห็นว่าตั้งแต่ปี 2017 หมู่บ้านชิราคาวะได้จัดระเบียบใหม่เพื่อจำกัดจำนวนคนเข้างาน คือต้องต่อคิวซื้อตั๋วบัสขึ้นไปชมเป็นรอบๆ ตั๋วหมดก็อด เดินขึ้นเขาไปเองเหมือนเวลาปกติไม่ได้แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะเลยนะ ขอกลับมาเชียร์ให้ไปเที่ยวอีกครั้งละกันค่ะ

ปีสุดท้ายก่อนมีการจัดระเบียบ
ถ้าอยากพักในหมู่บ้านควรจองล่วงหน้า 5-6 เดือนไปเลยค่ะ รถบัสและแท๊กซี่ก็ต้องจองแต่เนิ่นๆ เราเคยโดนแท๊กซี่ที่จองไว้เบี้ยวไม่มารับ ถ้าไม่ได้สตาฟของเกสท์เฮาส์ที่เราพักในคืนก่อนหน้าช่วยไว้ คงอดไปงานนี้แน่ๆ แนะนำให้พักข้างนอกหมู่บ้านจะสะดวกกว่า ส่วนตัวเคยพักทั้งในเมือง Kanazawa และ Takayama แล้ว แต่ขอแนะนำเมืองหลัง
แนะนำที่พักหน่อย :
- Guest House Ouka เกสท์เฮาส์เล็กๆสไตล์ญี่ปุ่นในเมือง Takayama (เมืองที่เป็นจุดขึ้นรถบัสไปหมู่บ้านชิราคาวะ) มีทั้งแบบห้องรวมและห้องส่วนตัว เรทติ้งดี สตาฟขยันจัดกิจกรรม บางคืนมีแสดงไวโอลิน บางคืนมีเวิคชอปตัดผม ในวันที่เรามีปัญหาโดนเบี้ยวรถไปงานก็ได้สตาฟทั้ง 4 คนมาช่วยโทรหาบริษัทแท๊กซี่และรถเช่าทุกแห่งในเมืองเลย รุมช่วยกันอยู่เป็นชั่วโมงแล้วยังซื้อไอติมมาเลี้ยงอีก สุดท้ายกลัวเรากับแท๊กซี่หากันไม่เจอ เลยตัดกระดาษลังมาทำเป็นป้ายภาษาญี่ปุ่นให้เราพกติดตัวไปถือรอแท๊กซี่ด้วย เราสัญญากับเค้าเลยว่าไว้จะแนะนำเพื่อนๆไปพักกับพวกคุณอีกนะ เลยขอใช้โอกาสนี้แนะนำทุกคน :)
- ลองเข้า Traveloka ไปดูส่วนลดแล้วจองเกสท์เฮาส์อูกะ Guest House Ouka กัน : คลิกที่นี่