บางสถานที่ถ้าไม่บอกว่าเป็นจีนจะไม่เชื่อเลย อาจเพราะจีนคือประเทศที่ใหญ่โตที่สุดในโลก มันเลยมีธรรมชาติที่สวยแปลกตาซุกซ่อนอยู่เพียบ วันก่อนนั่งหารูปธรรมชาติของจีนดูเล่นๆ ยิ่งดูยิ่งอยากไป เลยขอคัดมาฝาก 5 สถานที่เที่ยวที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจยกประเทศจีนให้เป็นจุดหมายอันดับหนึ่งในใจไปเลยก็ได้
1.Yading Scenic Area
ย่าติง เป็นอีกหนึ่งอุทยานที่เราหลงรัก ภูเขาป่าสนจะถูกคลุมด้วยหิมะขาวๆในฤดูหนาว แถมมีธารน้ำสีมินท์ที่ละลายลงมาจากหิมะบนยอดเขาอีก ที่นี่เป็นอุทยานที่ต้องออกแรงเดินเหนื่อยหน่อย แต่วิวสวยเกินคุ้มแน่นอน

atiger / shutterstock.com
อุทยานย่าติงจะมีรถคอยให้บริการรับส่งจากจุดซื้อตั๋วไปจนถึงปากทางขึ้นเขาที่ทุ่งหญ้าลั่วหรง Luorong grassland ความสูง 4,180 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเดินเที่ยวคือเส้นทาง Pearl lake ทะเลสาบไข่มุก ใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงกว่าๆ ทางเส้นนี้ถูกปรับปรุงเป็นบันไดเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้สะดวก แต่ด้วยความกดอากาศและออกซิเจนที่เบาบาง ก็จะอาจให้เราหอบได้ง่าย

kakamint / shutterstock.com

atiger / shutterstock.com
ยังมีเส้นทางให้เทรคกันต่อแต่ไม่มีม้าให้ขี่แล้ว กำลังขาล้วนๆ จากทะเลสาบน้ำนมเดินไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึง 5 Colors lake ทะเลสาบ 5 สี
แต่ยังไม่จบ สายแข็งยังสามารถเทรคขึ้นไปถึงยอดเขาที่ความสูงประมาณ 4,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลได้ด้วย สำหรับไปกลับใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 13-14 ชั่วโมง แนะนำให้ไป 2 วันแล้วไปนอนเตนท์ข้างบนดีกว่า

peiqi teh / shutterstock.com
พิกัด : yading
ไปเดือนไหนดี : ฤดูใบไม้ร่วงยังคงเป็นฤดูที่สวยและฮิตที่สุดอยู่ >> กันยายน – ตุลาคม
อีกช่วงที่อากาศยังดี และเห็นภูเขาด้านบนยังมีหิมะ คือ >> เมษายน – พฤษภาคม
2. Zhangye Danxia Rainbow Mountains
ภูเขาสีรุ้งแห่งจางเย่ตันเซี๋ย เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก Zhangye National Geopark มณฑลกานซู่ Gansu ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ที่นี่ทำให้เรานึกถึงเปรู ภูเขาหินสีรุ้งๆแบบนี้เลย

dinozzaver / shutterstock.com
สีที่เห็นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการตกตะกอนของหินทรายสีแดง ทับถมสลับกับแร่ธาตุอื่นๆ จนเกิดเป็นชั้นสีรุ้งต่างกันไป อุทยานครอบคลุมพื้นที่ถึง 2 เขต คือ Linze และ Sunan หากเข้าผ่าน Linze จะมีจุดชมวิวอยู่ 4 จุด และถ้าเลยไปทางฝั่ง Sunan จะมีจุดชมวิวภูเขารุ้งๆเพิ่มอีก 2 จุดค่ะ

dinozzaver / shutterstock.com

suronin / shutterstock.com
พิกัด : zhangye danxia
ไปเดือนไหนดี : ช่วงที่สีรุ้งของภูเขาจะจัดชัดเจนคือช่วงเดือนที่ฝนตก >> มิถุนายน – กันยายน และควรไปเที่ยวในช่วงเช้าไม่ก็ช่วงเย็น
3. Huanglong
หวงหลง หรืออุทยานแห่งชาติธารน้ำมังกรเหลือง ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ห่างจากจิ่วจ้ายโกวอันโด่งดังแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงจุดเด่นของที่นี่คือ น้ำสีฟ้าใสในแอ่งยึกๆยักๆ แต่ละแอ่งจะทับซ้อนกันไปตลอดทั้งหุบเขา สรุปให้สั้นคือสวยมาก

jiraphoto / shutterstock.com
แอ่งสีเหลืองเหล่านี้คือหิน travertine สีขาวที่เกิดจากการจับตัวกันของแคลเซียม โดยน้ำที่ไหลผ่านแต่ละชั้นลงมาเรื่อยๆจะค่อยๆกัดกร่อนให้หินขาวกลายเป็นสีเหลือง มองจากด้านบนจะดูคล้ายเกล็ดมังกรสีเหลืองทอง นี่เลยเป็นที่มาของชื่ออุทยานหวงหลง ธารน้ำมังกรเหลือง!

aar studio / shutterstock.com
การเข้าชมอุทยานจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 200 หยวนสำหรับไฮซีซั่น และ 60 หยวนสำหรับช่วงโลว์ โดยจุดชมวิวที่สวยที่สุดจะอยู่ลึกเข้าไปจากสถานีกระเช้าประมาณ 400 เมตร เส้นทางไม่ได้ลำบากนักเพราะทางอุทยานได้ทำทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวเอาไว้อย่างดี แค่อาจมีลื่นเพราะน้ำแข็งบนพื้นอยู่บ้าง และด้วยความสวยงามระดับนี้กับการเดินทางที่ไม่ได้ยากเกินไป หวงหลงจึงเป็นอีกสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติของจีนที่ไม่ควรพลาดเลย

vadim petrakov / shutterstock.com
พิกัด : huanglong
ไปเดือนไหนดี : ถ้าอยากเห็นสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี >> กลางกันยายา – กลางตุลาคม
ถ้าอยากเห็นบรรยากาศเขียวๆดอกไม้บาน ให้ไปหน้าร้อน >> กรกฎาคม – สิงหาคม
ถ้าอยากเห็นวิวขาวๆแบบหน้าหนาว >> มีนาคม – เมษายน
4.Yuanyang Rice Terrace
อย่าเพิ่งบอกว่าที่ไหนๆ ก็มีนาขั้นบันได เชียงใหม่ไง บาหลีอีก เวียดนามเหนือก็ยังมี อยากให้ลองดูรูปนาขั้นบันไดแห่งเมืองหยวนหยาง Yuanyang ก่อน มันแผ่กระจายไปทั่วภูเขา ยิ่งใหญ่สมกับเป็นประเทศจีนจริงๆ

kanok sulaiman / shutterstock.com
นาขั้นบันไดที่อื่นอาจน่าเที่ยวตอนข้าวเขียวหรือไม่ก็ออกรวงเหลืองทอง แต่สำหรับหยวนหยาง ช่วงเวลาที่พีคสุดกลับเป็นตอนที่ข้าวถูกเกี่ยวไปหมดแล้ว และจะสวยเป็นพิเศษตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก เพราะท้องฟ้าเปลี่ยนสีจะสะท้อนลงน้ำ และเนื่องจากเป็นพื้นที่บนเขาสูง ทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดปี ใครมาช่วงเช้าก็จะได้เห็นหมอกตลอดปีเช่นกัน

zzvet / shutterstock.com
ไปเดือนไหนดี : ถ้าชอบแบบในรูป น้ำเต็มนา ให้ไป >> พฤศจิกายน – มีนาคม
ถ้าอยากเห็นวิถีชีวิต คนดำนำ วัวช่วยไถ >> มีนาคม – เมษายน
5.Blue Moon Valley
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ตั้งอยู่ในเขตของ Jade Dragon Snow Mountain Scenic Area (5,596m.) หรือภูเขาหิมะมังกรหยกในลี่เจียง Lijiang เป็นหุบเขาที่มีแม่น้ำเลี้ยวโค้งไปตามเชิงเขา ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเหมือนพระจันทร์เสี้ยวสีน้ำเงินอยู่ในหุบเขา นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ

panuwat punjaburi / shutterstock.com
แต่บางครั้งพระจันทร์เสี้ยวก็ไม่ได้เป็นสีน้ำเงิน ในวันฝนตกโคลนสีขาวและเศษหินปูนที่อยู่ใต้น้ำจะถูกกวนขึ้นมาทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีขาวนมๆ ชาวพื้นเมืองบางคนเลยเรียกที่นี่ว่า White Water River แม่น้ำแห่งนี้เป็นหิมะและน้ำแข็งที่ละลายลงมาจากยอดเขา น้ำเลยเย็นมากๆ แม้จะเป็นฤดูร้อน ที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับแม่น้ำสีขาวด้วย คนพื้นเมืองเชื่อว่ามันคือแม่น้ำแห่งความรัก ในฤดูหนาวแฟนหนุ่มจะมายืนเท้าเปล่าในน้ำที่เย็นเจี๊ยบเพื่อพิสูจน์รักแฟนสาว

woratep suppavas / shutterstock.com
สำหรับการเดินทางขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาจะมีกระเช้าคอยให้บริการ ราคาไปกลับอยู่ที่ 220 หยวน แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลทำให้จำเป็นต้องแบ่งการเดินทางออกเป็น 2 ช่วง บนยอดจะมีความสูงถึง 4,446 m. above sea level จุดที่น่าสนใจที่สุดสำหรับที่นี่จะอยู่ช่วงต้นของแม่น้ำ มันจะเป็นขั้นบันไดที่หน้าตาเหมือนเปลือกหอยเชลล์ลดหลั่นกันไป หน้าตาคล้ายๆ Pamukkale ในตุรกี

coloursinmylife / shutterstock.com
พิกัด : blue moon valley
ไปเดือนไหนดี : ฤดูใบไม้ผลิ เห็นภูเขาหิมะ >> กลางมีนาคม – พฤษภาคม
และรอให้ฝนหน้าร้อนผ่านไปก่อน กลับมาเที่ยวอีกครั้งช่วงใบไม้เปลี่ยนสี >> ตุลาคม – พฤศจิกายน
(ที่เที่ยวข้างเคียงคือภูเขาหิมะ Jade Snow Dragon mt. ฤดูท่องเที่ยวคือหน้าหนาว ถึงจะหนาวมากๆ แต่ฟ้าใส มองเห็นยอดขาวตัดกับฟ้าสีเข้มชัดเจน >> มกราคม – มีนาคม)
ใครที่อยากลุยเอง พร้อมจัดหนักจัดเต็ม ก็เตรียมตัวดีๆนะ ถ้าอยากเที่ยวช่วงที่ธรรมชาติสวยพีค ไฮซีซั่น เพราะรับรองว่านักท่องเที่ยวถล่มทลายจนบางอย่างอาจต้องจองคิวกันข้ามปี แนะนำให้ลองเข้าเว็บ การท่องเที่ยวจีน ดู เผื่อเจอที่เที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่ม
แต่สำหรับคนที่ไปกับครอบครัวใหญ่ ไม่อยากพาพ่อแม่ลุงป้าไปผจญภัยขึ้นเขาลงห้วยเอง หรือไม่มีเวลาวางแผนล่วงหน้านานๆ แนะนำให้ไปทัวร์ดีกว่า แค่ต้องเลือกคุณภาพนิดนึง ไปจีนอะเนาะ ลองเข้าไปเลือกทัวร์จีนที่เหมาะกับตัวเองในเว็บ tourkrub ได้ เค้าเป็นเหมือนตัวแทนที่รวบรวมทัวร์จากทุกหนแห่งมาให้เราเปรียบเทียบได้ในเว็บเดียว ดูจากรีวิวลูกค้าที่เคยไปมาแล้วเห็นบอกว่าคุ้มค่ากับราคากัน แต่เรายังไม่เคยไปนะ ลองไปดู ราคาทัวร์จีน กันก่อน เว็บใช้ง่ายอยู่
best time to visit :
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) และฤดูใบไม้ผลิ (กันยายน – ตุลาคม) อากาศดี แต่ความสวยแบบพีคสุดของแต่ละสถานที่ก็แตกต่างกันไป ลองดูแยกตามสถานที่ที่เราเขียนไว้ด้านบนอีกทีนะ
time to avoid :
1. golden week หยุดยาววันชาติจีน เป็น 1 สัปดาห์ต้นเดือนตุลาคม ที่ทุกแหล่งท่องเที่ยวจะราคาพุ่งและคนจีนออกเที่ยวกันมหาศาล
2. golden week วันตรุษจีน สถานที่ท่องเที่ยวคนไม่ได้แน่นอย่างที่คิด พวกที่พักก็ไม่ได้แพง เพราะคนจีนเค้าไม่ค่อยเที่ยว แต่จะเดินทางกลับบ้านกัน เครื่องบิน รถไฟ รถบัส และการเดินทางทั่วประเทศจะแพงและหาตั๋วยากมากๆแน่นอน
3. วันแรงงาน ประมาณ 3 วันต้นเดือนพฤษภาคม
4. ปิดเทอมหน้าร้อนของมหาวิทยาลัยในจีน อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ฝนตกตลอด มิถุนายน – กรกฎาคม
ยังไงลองเก็บ 5 สถานที่สวยๆในจีนที่เราเอามาฝากไว้เป็นตัวเลือกดู
แล้วออกไปเที่ยวจีนกันให้สนุกนะ :D