6 สถานที่ดีๆในปราณบุรีที่เราเอามาฝาก ทั้งชายหาดสงบๆ ไร่สับปะรด สวนปลาหมึก ป่าเขาริมทะเล และอีกสารพัด! แถมซีฟู๊ดที่นี่ยังสดอร่อยกว่าในหัวหินด้วย อาทิตย์ไหนว่างๆก็ลองไปเที่ยวกันดู เลยหัวหินไปนิดเดียวเอง กับ 6 สถานที่ในปราณบุรีที่เราชอบและอยากแบ่งปัน
- ไร่สับปะรด
- หมึกแดดเดียว ปากน้ำปราณ
- ป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี
- น้ำสีเขียวอ่อนริมอ่างเก็บน้ำปราณบุรี
- วนอุทยานท้าวโกษา เขากะโหลก และกระบองเพชร
- สุกี้ลูกทุ่งๆบนถนนคนเดินปราณบุรี
1. ไร่สับปะรด
ระหว่างทางจะขับผ่านไร่สับปะรดเต็มไปหมด เพราะปราณบุรีเป็นแหล่งปลูกสับปะรดที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่ไปทีไรก็เจอแต่ใบซีดๆยาวๆ หัวสับปะรดไม่เคยงอกมาให้ดูเลยยย กลับมาค้นคว้าเพิ่ม อ้อ ไปผิดเดือนเอง ถ้าอยากดูสับปะรดโตเต็มไร่ต้องมาช่วงตุลา-ธันวา ไม่ก็เมษา-มิถุนา จริงๆสับปะรดจะทยอยสุกกันตลอดปี แต่ช่วงเดือนที่ว่ามาจะมีผลผลิตออกมาเยอะหน่อย
สับปะรดที่นิยมปลูกกันมากที่สุดคือพันธุ์ปัตตาเวีย เพราะรสหวานฉ่ำกว่าพันธุ์อื่น แกนกลางก็ไม่เหนียว โดยที่นี่ยังเป็นที่แรกในไทยที่มีการปลูกสับปะรดพันธุ์นี้ ปัตตาเวียนิยมปลูกป้อนเข้าโรงงานทำสับปะรดกระป๋อง จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่ปราณบุรีจะมีโรงงานสับปะรดกว่า 30 โรงงาน ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของประเทศ คนแถบนี้ถ้าไม่ทำไร่สับปะรดก็ทำงานในโรงงานสับปะรดนี่แหละ
2. หมึกแดดเดียว ปากน้ำปราณ
ถ้ามาแถวนี้ตรงกับช่วงเที่ยง เราชอบแวะกินหมึกแดดเดียวและข้าวขยำปู!
ปากน้ำปราณ เป็นชื่อตำบลนึงของปราณบุรีด้วย ไม่ได้เป็นแค่ปากของแม่น้ำปราณก่อนไหลคดเคี้ยวลงทะเลอย่างเดียว และเพราะที่นี่คือปากแม่น้ำ จึงมีสัตว์น้ำอยู่ชุกชุมสมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งประมง และขายซีฟู๊ดแปรรูปราคาถูก ตอนเราไปเป็นตอนกลางวันที่แดดออกเปรี้ยงๆ ชาวบ้านเลยขนหมึกมาวางแผ่เตรียมทำหมึกแดดเดียวกันเต็มสวนเต็มสนาม นี่เป็นสินค้าตัวท็อปๆของปราณบุรี ชื่อเสียงนี่ไม่แพ้สับปะรดเลย
และจะบอกว่าหมึกแดดเดียวแถบนี้อร่อยมากกก เนื้อหวาน นุ่มดึ๋ง ไม่เหนียว ไม่แห้ง ห้ามคิดว่าหมึกแดดเดียวที่ไหนๆก็เหมือนกันหมด จนกว่าจะได้มาลองหมึกแดดที่นี่ อร่อยจนสั่งหมึกแดดเดียวกินทุกร้านเลย แต่ถ้าไม่ใช่ปราณ ปกติจะกินแต่หมึกผัดไข่เค็ม และหมึกนึ่งมะนาว :p
หมึกที่จะนำมาท้าแดดจะถูกเจาะตา และเอาพวกเครื่องด้านในออกก่อน จะทำหมึกแดดเดียวต้องเลือกแดดเปรี้ยงๆ แบบว่าแดดเดียวรู้เรื่อง ตากซัก 3-4 ชั่วโมงก็เรียบร้อย เอาแค่แดดเดียวพอ ถ้าแดดน้อยหมึกก็ไม่ได้ที่ จะเอาไปตากต่ออีกวันเป็นหมึกสองแดด สามแดดก็ไม่ได้
3. ป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี
วนอุทยานปราณบุรี ป่าชายเลนที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวอ่อนๆ ปีที่ผ่านมาสถานที่แห่งนี้ฮิตมากๆ สะพานไม้ยาว 1 กิโลเมตรจะพาเราลัดเลาะผ่านดงต้นโกงกาง โปรง แสม และอีกหลายต้น
เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมต้นไม้พวกนี้ถึงเจริญงอกงามได้ดี ทั้งที่เป็นพื้นที่เลนที่น้ำทะเลเค็มๆท่วมถึงในขณะที่ต้นไม้อื่นอาจตาย เหมือนกับคนที่ก็คงไม่รอดถ้าให้ดื่มน้ำทะเลแทนน้ำจืด นั่นเป็นเพราะต้นไม้ในป่าชายเลนมีต่อมเกลือและขี้ผึ้งช่วยสกัดน้ำเกลือไม่ให้เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อภายใน ตัวใบจะกักเก็บน้ำจืดได้ดีกว่าใบทั่วไปนั่นเอง
มุมสุดฮิตของที่นี่ยกให้หอชะคราม เป็นหอคอยชมวิวที่น่าจะสูงเทียบตึก 4 ชั้นได้ ขึ้นไปจะได้เห็นวิวป่าชายเลนแบบ 360 องศาเลย อีกด้านของป่าชายเลนจะเป็นทะเลสงบๆและทิวสนประดิพัทธ์ เป็นชายหาดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวซักคนจริงๆ
4. น้ำสีเขียวอ่อนริมอ่างเก็บน้ำปราณบุรี
แวะไปเล่นๆ เพราะเห็นว่าไม่ไกลจากเส้นหลัก ที่นี่สงบมาก มีชาวบ้านมาตกปลาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย รอบๆอ่างเก็บน้ำรายล้อมด้วยภูเขาหลายลูก วิวที่แปลกตาสุดๆคือน้ำริมฝั่งจะเป็นสีเขียวอ่อนแบบชาเขียวผสมนม แต่ไม่เหม็นนะ แถมให้ บริเวณที่ทำการจะมีป่าโปร่งๆ ถ้ามาตอนบ่ายอาจได้เห็นแพะฝูงใหญ่มาเล็มกินหญ้าในป่าแห่งนี้ แถมยังมีผีเสื้อบินว่อนอีก เป็นบรรยากาศที่สวยมาก
5. วนอุทยานท้าวโกษา เขากะโหลก และกระบองเพชร
สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา รองจากถนนคนเดินปราณ หาดนเรศวรน่าจะเป็นที่ที่คึกคักสุดแล้ว ตำรวจยังต้องมาช่วยโบกรถหน้าหาดตลอดเวลา ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างถิ่นเลย จะมีก็แต่ชาวบ้านพาลูกเล็กมาเล่นน้ำทะเล น้ำและทรายที่หาดนเรศวรดูจะน่าเล่นกว่าหาดอื่นๆของปราณบุรีอยู่หน่อย บางคนนอนเล่นบนเก้าอี้ผ้าใบ บางคนเอาเสื่อมาปูจัดปาร์ตี้เปิบข้าวเหนียว ตั้งวงส้มตำไก่ย่าง แต่มันดีตรงที่รถเข็นอาหารพวกนี้ ไม่มีใครเข้ามาขายบนชายหาด ตั้งอยู่บนถนนกันหมด
ใครชอบปีนป่าย เดินไปสุดหาดจะเจอเขากะโหลกที่ครึ่งนึงยื่นลงไปในทะเล ชาวบ้านเรียกที่นี่ว่าเขากะโหลกเพราะภูเขาแห่งนี้มีรูกลวงๆโบ๋ๆอยู่ เหมือนรูลูกตาบนกะโหลก ภูเขาลูกนี้มีถ้ำเล็กๆแทรกตัวอยู่เยอะ ดูขลังๆยังไงก็ไม่รู้ด้วย เห็นชาวบ้านมาสักการะกัน
เขากะโหลกเป็นเขาหินปูน บางก้อนมีสีขาวริ้วเทาอมฟ้าเหมือนหินอ่อน โดนแดดทีก็เป็นประกายระยิบระยับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหินธรรมดาก้อนยักษ์ที่ค่อนข้างชัน ตอนเดินขึ้นต้องไต่เชือกเพื่อโหนตัวขึ้นไป เชือกแอบเก่าจนบางจุดใกล้ขาด ส่วนตอนเดินลงก็แทบจะนั่งไถลตัวลงมา ชันมากจริงๆ ความตื่นเต้นคือถ้าพลาดเซไปทางซ้ายก็จะชนกับพุ่มกระบองเพชร แต่ถ้าเซขวาก็จะตกเขาร่วงลงทะเลไปเล้ยยย ถ้าปีนขึ้นไปถึงยอดได้ ก็จะได้เห็นเวิ้งทะเลและหาดนเรศวจากมุมสูง ไกลกว่านั้นก็คือปากน้ำปราณ ศัตรูตัวฉกาจของที่นี่คือยุง
* ทั้งหาดนเรศวรและเขากะโหลกอยู่ในพื้นที่ของวนอุทยานท้าวโกษา
6. สุกี้ลูกทุ่งๆบนถนนคนเดินปราณ
เป็นถนนคนเดินที่ชอบมากๆ หลังๆไปหัวหินทีไร ถ้าเป็นเย็นวันเสาร์ต้องขับมาถนนคนเดินปราณตลอด
มันมีความกันเอง มีเสน่ห์แบบพื้นบ้าน อาหารก็ถูก อาหารถิ่นก็มี จัดแค่อาทิตย์ละครั้งในย่านตลาดเก่าอายุกว่า 200 ปี คือเห็นหน้าตาก็รู้ล่ะว่าเก่ามาก แนะนำให้มาตอนที่ยังไม่มืด คนยังไม่เยอะ จะได้เห็นบรรยากาศคลาสสิคของบ้านไม้แถวนี้
พอฟ้ามืดแล้วที่นี่จะเปลี่ยนเลย ร้านคาราโอเกะผู้สูงวัยก็มา เวทีลูกทุ่งรุ่นเด็กก็มี แสงสีนี่แบบชิงช้าสวรรค์ สำหรับโซนของกินจะแยกไว้ที่ด้านนึงของถนน บางร้านไม่มีที่นั่ง ก็นั่งตามขั้นบันไดบ้านเค้าไปเลย
แต่จากการหอบหิ้วของกินมาหลายร้าน ซื้อมาแม้กระทั่งดอกอัญชัญ ผัดไทยน้ำตาลโตนด ถุงหมูกระจกอร่อยๆเต็มมือ จึงหาโต๊ะนั่งเลยดีกว่า ได้มาเป็นร้านสุกี้หน้าเวทีลูกทุ่ง เป็นชุดสุกี้ที่ถูกมาก ที่เห็นบนโต๊ะนั่นราวๆ 60 บาทแค่นั้นเอง รสชาติก็ใช้ได้ บรรยากาศคือสุด สุกี้หน้าเวทีลูกทุ่ง :D
จริงๆปราณยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ ถ้าใครอ่านจบแล้วยังรู้สึกว่าไม่พอ ลองไปหาเพิ่มใน Expedia : ชายหาดที่สมบูรณ์แบบของคุณ ดูได้ เค้ามีแนะนำที่เที่ยวที่กินโดยแบ่งตามกลุ่มคนให้เลย กลุ่มเพื่อน ครอบครัว คนรัก เกษียณก็มี แถมบอกคร่าวๆให้ด้วยว่าต้องใช้เงินค่าอะไรเท่าไหร่ แล้วใช้เวลากี่วันดี อย่างปราณบุรีเค้าแนะนำไว้ว่า 3.06 วัน ใช่ล่ะ เที่ยวสบายๆ พักผ่อนนอนตื่นสาย 3 วันกำลังดี แต่อีก 0.6 นี่ไม่ค่อยแน่ใจ 5555 นอกจากปราณก็ยังมีอีกหลายชายหาดที่น่าสน อยากรู้แหล่งไหนก็กดเข้าไปในร่มที่ปักไว้รอบด้ามขวานได้เลย ลองเล่นดู รับรองว่าเป็น Expedia เวอร์ชั่นใช้ง่าย