วันหยุดยาวหน้าร้อนนี้ หลายๆคนคงวุ่นกับการจองตั๋ววางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน แต่ก็คงมีอีกหลายๆคนที่ยังไม่รู้ว่าหน้าร้อนนี้จะไปที่ไหนดี เรามีสถานที่ที่เราประทับใจมาแนะนำ ใครที่หลงรักทะเล ห้ามพลาด!
ถ้าพูดถึงทะเล คงต้องขอเริ่มจากประเทศไทย :)
1. Railay, Thailand
ประเทศไทยมีทะเลสวยๆนับไม่ถ้วน แต่ถ้าถามคนชอบปีนผาอย่างเรา คงหนีไม่พ้น “ไร่เลย์” จังหวัดกระบี่ จุดปีนผานี้ตั้งอยู่ในถ้ำที่อยู่บนเขาอีกที เราจะต้องปีนป่ายเข้าถ้ำไปพร้อมกับไฟฉาย แล้วโรยตัวลงมาก่อนถึงค่อยเริ่มปีนผาได้ อาจฟังดูลึกลับ แต่เส้นทางนี้ไม่ยากเลย สนุก วิวสวย อีกทั้งยังได้สัมผัสดวงตาของไร่เลย์ จุดที่มองลงมาแล้วเห็นไร่เลย์ทั้งหมด
ไร่เลย์ยังมีดาวนับล้านอยู่ในทะเล สามารถเห็นได้ในตอนกลางคืน คนที่นี่บอกว่าเป็นแพลงตอนเรืองแสง เวลาเอามือตีๆ แหวกๆในทะเล ดวงดวงเหล่านี้จะสว่าง ระยิบ ระยับ ติดตามน้ำ ตามแขน ขึ้นมาเต็มไปหมด นับไม่ถ้วนเลย
2. Galápagos Islands, Ecuador
หมู่เกาะกาลาปากอส มีเกาะเล็กเกาะใหญ่กว่า 100 เกาะ พิเศษตรงที่แต่ละเกาะอยู่ห่างกันไกลมากๆ ไกลกันจนสัตว์ไม่สามารถย้ายข้ามเกาะได้ ลมที่เกาะนี้ก็พิเศษ พัดไปในทิศเดียวเท่านั้น ทำให้ยีนส์ไม่สามารถปนกัน สัตว์เลยหน้าตาไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่จากเมื่อตอน Charles Darwin มาค้นพบ
ที่นี่มีสัตว์กว่า 9,000 สายพันธุ์ และส่วนใหญ่พบได้แค่ที่นี่ที่เดียวในโลก! สัตว์หน้าตาแปลกๆแต่เป็นมิตรเยอะแยะ พบเจอได้ตั้งแต่ เต่ายักษ์ แมวน้ำขี้เล่น ที่ชอบว่ายน้ำเล่นจะเอ๋กับคน นกเท้าสีฟ้า ที่ร้องเพลงและเต้นเวลาจีบสาว อีกัวน่าตัวสีแดงเขียวที่ชอบอาบนำ้และเดินทางเป็นกิโลๆจนตัวผอม เพื่อไปวางไข่ หรือแม้แต่ปลาฉลาม ที่ว่ายมาโชว์ตัวรอบๆเรือตอนกลางคืน เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักสัตว์เลย
3. Ipanema Beach , Brazil
Tall and tan and young and lovely, The girl from ipanema goes walking… เพลงที่หลายๆคนคงคุ้นหู เนื้อเพลงเล่าถึงหญิงสาวจาก Ipanema ชายหาดชื่อดังของประเทศบราซิล ที่ได้ชื่อว่าเป็น หาดที่เซ็กซี่ที่สุด
หาด Ipanema อยู่ติดกับหาด Copacabana หาดชื่อดังอีกที่ แต่บรรยากาศกลับไม่เหมือนกันเลยทั้งที่อยู่ติดกัน Copacabana จะชิลๆสบายๆ ในขณะที่ Ipanema ครึกครื้นและคนแน่นมากกกก ไม่ว่าจะเป็นคนรวยที่อยู่คอนโดริมหาด หรือคนจนที่อยู่ในสลัมบนเขา ทุกคนต่างก็ใช้หาดนี้เหมือนกัน เป็นหาดที่มีชีวิตชีวา เห็นกิจกรรมและความหลากหลายแตกต่างของเมืองละตินนี้
4. Malta
มอลต้า (Malta) เป็นประเทศเล็กๆในยุโรป ที่หลายๆคนมองข้ามและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทย ทั้งๆที่ธรรมชาติสวยงาม ค่าครองชีพก็ถูก และยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หนังหลายๆเรื่องก็มาถ่ายทำกันที่นี่ เช่น Captain Phillips, Troy, Munich
ประเทศมอลต้านี้ เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ถัดจากอิตาลีลงมาหน่อย ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก (เล็กกว่าสิงคโปร์ครึ่งหนึ่งและขนาดพอๆกับมัลดีฟส์) ถ้าวันไหนอยากเห็นทะเล ก็แค่เดินไปทางทิศไหนก็ได้ น้ำทะเลใสๆที่มองจากหน้าผาสูงๆ สวยจนถูกเรียกว่า ไข่มุกสีน้ำตาลแห่งเมดิเตอร์เรเนียน :)
5. Dead Sea, Jordan
ทะเลสาบเดดซี อยู่ระหว่างประเทศจอร์แดนกับอิสราเอล เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่ในเขตทะเลทราย ไม่มีทางออกสู่ทะเลอื่นๆ น้ำทะเลก็ระเหยอยู่เรื่อยๆ จนความเข้มข้นของเกลือที่นี่สูงมาก (และเค็มมาก) ทำให้สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เลยได้ชื่อว่า Dead Sea
นอกจากเค็มจนสัตว์อยู่ไม่ได้แล้ว เกลือที่นี่ยังหนาแน่นจนสามารถลอยตัวได้ แถมใต้ทะเลยังมีโคลนสีดำ ที่เชื่อกันว่าดีต่อผิวพรรณ ตัวก็ลอยไป มือก็ควานๆ ควักๆ หาดินสีดำๆอุ่นๆ มาทา ใครที่สงสัยว่าลอยได้จริงๆมั้ย ต้องลองมานะ ค่าครองชีพที่นี่ถูก แถมคนไทยสามารถขอวีซ่า on arrival ที่สนามบินได้ด้วย :)
6. The Great Lakes, USA
เกรทเลคส์ คือ ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ทั้ง 5 ของทวีปอเมริกาเหนือ (Superior, Ontario, Michigan, Erie และ Huron) มีชายหาดดีๆอยู่มาก ถ้ายิ่งขึ้นเหนือก็ยิ่งสวย น้ำใสพอๆกับท้องฟ้า และน้ำที่นี่ยังมีปริมาณมากถึง 1 ใน 5 ของน้ำจืดทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกด้วย
สำหรับใครที่ชอบไปเที่ยวทะเล แต่ไม่อยากตัวเหนียว ผมเหนียว ไม่ชอบลมร้อน และไอเกลือจากทะเล จะมีอะไรดีไปกว่าการเล่นทะเลน้ำจืด ลมเย็นๆ เสียงคลื่นอ่อนๆ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวเวลาน้ำทะเลเข้าปากแล้วจะเค็มจนขมคอ เพราะที่นี้เป็นน้ำจืด :D
7. Pan de Azúcar, Chile
A place where you can understand the difference between loneliness and solitude.
Pan de Azúcar คือชายหาดฝั่งทะเลทรายของประเทศชิลี อยู่ถัดลงมาจากทะเลทราย Atacama (ทะเลทรายที่แห้งแล้งที่สุดของโลก) ที่นี่ไม่มีพันธุ์ไม้อื่นๆ มีแต่พืชตระกูลกระบองเพชรกับสัตว์ในทะเลทราย แต่ถ้าไปที่ชายหาดจะเจอสิงโตทะเล เพนกวิ้น และนกทะเลต่างๆอยู่เต็มไปหมด
เวลาเจอสถานที่สวยๆ เรามักจะตื่นเต้น ดีใจ สิ่งที่สวยๆงามๆ ทำให้ตกหลุมรักได้ไม่ยาก แต่กับที่นี่ มันไม่ได้สวยจนร้องว้าวในครั้งแรกที่ได้เห็น ธรรมดาๆ แต่กลับทำให้รู้สึกดีอย่างประหลาด เหมือนเจอผู้หญิงหน้าตาพื้นๆคนนึง แต่พอคุยด้วยแล้ว กลับไม่สามารถลืมบทสนทนาเหล่านั้นได้… สงบ สุขุม หนักแน่น แต่ก็ผ่อนคลาย
8. Malaga, Spain
Málaga เมืองชายทะเลทางใต้ของสเปน ที่รู้จักกันในฐานะเมืองเกิดของ Picasso จิตรกรเอกของโลก ถ้าพูดถึงสเปนหลายคนอาจนึกถึงมาดริดกับบาร์เซโลน่า แต่อยากให้ลองมาเที่ยวสเปนทางตอนใต้บ้าง ศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ ทั้ง Malaga, Seville, Cordoba และ Granada
ถึงแม้ว่าชายหาดทางยุโรปจะสู้บ้านเราไม่ได้ แต่ด้วยอากาศเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ บวกกับคนสเปนที่นี่อารมณ์ดี ออกมาเดินเล่น กินไอติม จิบเบียร์ ทาน Tapas ทักทาย โอล้าาาา กันทั้งวัน ทำให้ประทับใจได้ไม่ยาก มาแล้วอย่าลืมขึ้นไปป้อมปราการ ชมวิวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมองเห็นเมือง Málaga ได้ทั้งเมือง
9. Pink Sand, Bermuda
(Photo:See.place)
สถานที่สุดท้าย เบอร์มิวด้า เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ passport ไทยเข้าได้เลย ไม่ต้องใช้วีซ่า ถ้าพูดถึงสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าคงไม่มีใครไม่รู้จัก สถานที่ๆเป็นตำนานปริศนาที่ทำให้เรือและเครื่องบินหลายลำหายสาบสูญ ประเทศเบอร์มิวด้าก็อยู่ตรงนั้นแหละ ตรงยอดเหนือสุดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
เบอร์มิวด้า เป็นประเทศเล็กๆ ที่เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก นอกจากน้ำทะเลสีเขียวมิ้น และหาดทรายสีชมพูอ่อนๆที่จะเห็นชัดเมื่อน้ำทะเลซัดขึ้นมาแล้ว เบอร์มิวด้ายังเด่นเรื่องถ้ำ ถ้ำสวยมากและหลากหลาย แถมน้ำในถ้ำก็ยังใสไม่ต่างจากข้างนอกอีกด้วย
All the beaches are stunning, wonderful and unique. I would love to visit them all! Thank you for your sharing :)… Fon
LikeLike
its so amazing! I’d love to be there once
LikeLike
สวยมากครับ หาดแต่ละที่ เคยไปแต่หาดแถวกระบี่ ที่อื่นคงต้องไปลองดูซักครั้ง
LikeLike